เทคโนโลยีที่ใช้บันทึกข้อมูล
เทคโนโลยีที่ใช้บันทึกข้อมูล (Input Technology) หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ในการนำข้อมูลเข้าไปเก็บไว้ในสื่อจัดเก็บข้อมูล โดยการใช้เทคโนโลยีฮาร์ดแวร์และเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ ในการบันทึกข้อมูล จะต้องแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่คอมพิวเตอร์เข้าใจ คือต้องเป็นชุดสัญญาณที่มีลักษณะเป็นเลขฐานสองเท่านั้น การนำข้อมูลเข้าโดยทั่วไปมักจะใช้วิธีป้อนผ่านแป้นพิมพ์ ปัจจุบันมีการนำเอาเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล มาใช้ในการบันทึกข้อมูลหลากหลายวิธีและวิธีที่นิยใช้ในปัจจุบันมี 5 วิธีดังนี้
1.1 การนำ้ข้อมูลเข้าด้วยวิธีการพิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์ (Key board)
1.2 การนำข้อมูลเข้าผ่านทางเมาส์ (Mouse) แทร็กบอล (Trackball) และจอภาพแบบสัมผัส (Touch Screen)
1.3 การนำข้อมูลเข้าโดยวิธีเขียน หรือวิธีการลากเส้น
1.4 การนำเ้ข้าเครื่องโดยใช้เทคโนโลยีในการสแกน
1.5 การนำเข้าข้อมูลด้วยเสียง
1.6 การนำเข้าข้อมูลจากสื่ออื่นๆ
1.1 การนำ้ข้อมูลเข้าด้วยวิธีการพิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์ (Key board)
1.2 การนำข้อมูลเข้าผ่านทางเมาส์ (Mouse) แทร็กบอล (Trackball) และจอภาพแบบสัมผัส (Touch Screen)
1.3 การนำข้อมูลเข้าโดยวิธีเขียน หรือวิธีการลากเส้น
1.4 การนำเ้ข้าเครื่องโดยใช้เทคโนโลยีในการสแกน
1.5 การนำเข้าข้อมูลด้วยเสียง
1.6 การนำเข้าข้อมูลจากสื่ออื่นๆ
กล้องดิจิตอล
กล้องวิดีโอ
1.7 การนำเข้าข้อมูลจากแหล่งทางไกล (Remote Sensing)
เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล (Storage Technology) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เก็บข้อมูลลงในสื่อที่จัดเก็บโดยเฉพาะเพื่อสามารถนำข้อมูลหรือโปรแกรมกลับมาใช้ซ้ำได้ เป็นการจัดเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจำลอง (Secondary Storage) การจัดเก็บข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำมีอยู่ 5 ประเภทได้แก่ การเก็บและการอ่านข้อมูลแบบเรียงลำดับ และแบบข้อมูลถึงโดยตรง
2.1 สื่อแม่เหล็ก
2.1 สื่อแม่เหล็ก
2.2 สื่อแสงเทปแม่เหล็ก
จานแม่เหล็ก
2.3 สื่อประจุไฟฟ้า (Flash Memory)
เทคโนโลยีที่ใช้ประมวลผล (Process) ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึง การนำข้อมูลคำนวณทางคณิตศาสตร์ และเปรียบเทียบข้อมูลในทางตรรกะตามคำสั่ง และจัดเก็บข้อมูลและคำสั่งในหน่วยความจำหลักรวมทั้งควบคุมระบบเวลาของเครื่อง อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ประมวลผลของคอมพิวเตอร์ คือ หน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียู (Central Processing Unit : CPU) ซึ่งมีส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่ หน่วยคำนวณตรรกะ และหน่วยควบคุม การทำงานของหน่วยประมวลผลกลางโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมสั่งงาน ซึ่งจะประกอบด้วยซอฟต์แวร์ 2 ประกอบหลัก ได้แก่ ซอฟต์แวร์ระบบ และซอฟต์แวร์ประยุกต์
3.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
3.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software)
3.2 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (Application Software)ระบบปฏิบัติการ (Operating System : OS)
โปรแกรมอรรถประโยชน์ (Utility Program)
ตัวแปลภาษา (Language Translator)
เทคโนโลยีที่ใช้แสดงผลข้อมูล (Display Technology) หมายถึง เทคโนโลยีที่ทำหน้าที่แปลงข้อมูลที่เป็นผลลัพธ์จากการประมวลผล ซึ่งอยู่ในภาพดิจิตอลให้อยู่ในรูปแบบที่ผู้ใช้นำไปใช้งานได้การแสดงผลสามารถแสดงผลได้ 2 ลักษณะดังนี้
4.1 การแสดงผลแบบชั่วคราว (Soft Copy) แสดงผลบนหน้าจอเทอร์มินัลหรือทางลำโพง ซึ่งไม่ได้ส่งผลลัพธ์ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่าสำเนาชั่วคราว
4.2 การแสดงผลแบบถาวร (Hard Copy) แสดงผลลัพธ์ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้อ่านผลได้หลายครั้งและสามารถนำผลลัพธ์ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่า สำเนาถาวร4.1 การแสดงผลแบบชั่วคราว (Soft Copy) แสดงผลบนหน้าจอเทอร์มินัลหรือทางลำโพง ซึ่งไม่ได้ส่งผลลัพธ์ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เรียกว่าสำเนาชั่วคราว
เทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสาร (Communication Technology) เป็นการนำเอาเทคโนโลยีโทรคมนาคมมาใช้ในการสื่อสารข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีองค์ประกอบพื้นฐานคือผู้ส่งหรือเครื่องส่ง และผู้รับหรือเครื่องรับสื่อที่ใช้ในการรับส่ง และข้อมูลที่รับส่งผ่านสื่อในรูปแบบของรหัสดิจิตอล สื่อที่ใช้ในการรับส่งข้อมูล แบ่งออกได้หลายประเภท ได้แก่ ประเภทสาย เช่น สายนำสัญญาณไฟฟ้า คือ สานเกลียวคู่ สายโคแอคเชียล และสายใยแก้วนำแสง ประเภทไร้สาย ได้แก่ สื่อสัญญาณที่เป็นคลื่นวิทยุ คลื่นวิทยุไมโครเวฟ ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม และแสงอินฟราเรด อุปกรณ์ในระบบสื่อสารข้อมูล ยังมีอุปกรณ์เชื่อมเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ โมเด็ม และไอเอสดีเอ็นอะแดปเตอร์
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันโดยอาศัยระบบสื่อสารข้อมูล เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น เร้าเตอร์ สวิตซ์ บริดจ์ หรือเกตเวย์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยส่วนต่างๆที่ทำหน้าที่ตามกฏเกณฑ์และมาตรฐานในการรับส่งข้อมูลเรียกว่า โพรโทคอล เทคโนโลยีเครือข่ายและเทคโนโลยีเครือข่ายระยะไกล หรือที่เรียกกันว่า แลน (Local Area Network : LAN) และเทคโนโลยีเครือข่ายระยะไกล หรือที่เรียกกันว่า แวน (Wide Area Network : WAN)
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เป็นการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันโดยอาศัยระบบสื่อสารข้อมูล เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ อุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมโยงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น เร้าเตอร์ สวิตซ์ บริดจ์ หรือเกตเวย์ ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยส่วนต่างๆที่ทำหน้าที่ตามกฏเกณฑ์และมาตรฐานในการรับส่งข้อมูลเรียกว่า โพรโทคอล เทคโนโลยีเครือข่ายและเทคโนโลยีเครือข่ายระยะไกล หรือที่เรียกกันว่า แลน (Local Area Network : LAN) และเทคโนโลยีเครือข่ายระยะไกล หรือที่เรียกกันว่า แวน (Wide Area Network : WAN)
ความหมายของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล หมายถึง อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูล โปรแกรมคำสั่งและสารสนเทศต่าง ๆ ไว้อย่างถาวรเพื่อสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในวันข้างหน้าได้ เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหน่วยความจำสำรอง (Secondary Storage)
ประเภทของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ คือ
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดแม่เหล็ก (Magnetic Storage) หมายถึงอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ใช้เทคโนโลยีแม่เหล็ก แบ่งออกเป็น
1. ฟล็อปปี้ดิสก์ (Floppy Disk) เรียกอีกอย่างว่า (Diskette) เป็นอุปกรณ์ที่ทำมาจากแผ่น ไม - ลาร์ (Mylar) และเคลือบด้วยสารแม่เหล็กบาง ๆ ทั้งสองด้าน มีหลายขนาดด้วยกัน คือ 8 นิ้ว 5.25 นิ้ว และ 3.5 นิ้ว
ปัจจุบันฟล็อปปี้ดิสก์ที่นิยมใช้กันคือขนาด 3.5 นิ้ว สามารถบรรจุข้อมูลได้ 720 กิโลไบต์ และ 1.44 เมกะไบต์ ส่วนใหญ่ผ่านการฟอเมตเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากโรงงาน โดยสังเกตได้จากคำว่า Formatted บนกล่องฟล็อปปี้ดิสก์
2. ดิสก์ความจุสูง (High-Capacity Floppy Disk)มีลักษณะคล้ายฟล็อปปี้ดิสก์แต่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ปริมาณมากกว่า ตัวอย่างเช่น ซูเปอร์ดิสก์ (Super Disk) มีความจุ 120 เมกะไบต์ ซิปดิสก์ (Zip Disk) มีความจุ 100, 250 เมกะไบต์ และแจสดิสก์ (Jaz Disk) มีความจุ 1,2 กิกะไบต
์
3. ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากมีความจุข้อมูลสูงและราคาไม่แพง ถือเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลหลักที่จำเป็นต้องมีในเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อจัดเก็บโปรแกรมระบบปฏิบัติการ โปรแกรมประยุกต์ ข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ
4. ดิสก์ความจุสูง (High-Capacity Floppy Disk) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่ปัจจุบันมีความนิยมใช้น้อยลงไป เพราะการเข้าถึงข้อมูลเป็นไปแบบเรียงข้อมูลแบบเรียงลำดับ (Sequential) ซึ่งช้าแต่อย่างไรก็ตามเทปแม่เหล็กยังคงมีการใช้สำหรับจัดเก็บข้อมูลสำรองต่าง ๆ เนื่องจากเทปแม่เหล็กมีความจุสูง เคลื่อนย้ายง่ายและราคาไม่แพง
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดแสง (Optical Storage) อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลชนิดแสง ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงขึ้นเป็นลำดับ เพราะมีความจุสูง มนมานราคาถูกแบ่งออกเป็น
1. ซีดีรอม (Compact Disc Read Only Memory: CD-ROM) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีลักษณะภายนอกเป็นวัตถุทรงกลม ทำมาจากแผ่นพลาสติกโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 4.75 นิ้ว ด้านที่ใช้บันทึกข้อมูลจะมีสีเป็นสีเงินแวววาวมีความจุข้อมูลได้ประมาณ 600-700 เมกะไบต์ ข้อมูลที่ถูกบันทึกลงในแผ่นซีดีรอม สามรถเรียกใช้งานหรืออ่านได้เพียงอย่างเดียว (Read Only) ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้
2. ดีวีดีรอม (Digital Versatile Disc Read Only Memory: DVD-ROM) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่นิยมนำมาใช้บันทึกภาพยนตร์เพราะมีความจุสูง สามรถบันทึกข้อมูล ได้ทั้งสองด้าน แต่ละด้านสามารถบันจุข้อมูลได้ประมาณ 47 กิกะไบต์
3. ซีดีอาร์ (Compact Disc Recordable: CD-R) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีลักษณะเหมือนซีดีรอมแต่ผู้ใช้สามารถทำการบันทึกข้อมูลลงแผ่นได้ ซึ่งการบันทึกข้อมูลไม่สามารถบันทึกทับหรือลบข้อมูลเดิมที่บันทึกลงไปแล้วได้
4. ซีดีอาร์ดับบลิว (Compact Disc Rewritable: CD-RW) เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีลักษณะการทำงาน คล้ายกับซีดีอาร์ แต่ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลได้หลายครั้ง
หน่วยความจำแบบแฟลช (Flash Memory)
เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความสามรถในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับหน่วยความจำหลัก แต่หน่วยความจำแบบแฟลช แตกต่างกับหน่วยความจำหลักคือ เป็นหน่วยความจำที่ข้อมูลคงสภาพอยู่ได้แม้ไม่มีกระแสไฟฟ้า
หน่วยความจำแบบแฟลชมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน เช่น หน่วยความจำหลักแบบแฟลชที่อยู่ในรูปของการ์ดความจำ (Memory Card) และหน่วยความจำแบบแฟลชที่มีการเชื่อมต่อแบบยูเอสบี (USB) สามารถเชื่อมต่อกับพอร์ตยูเอสบีของเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานได้ ซึ่งมีชื่อเรียกที่แตกต่างกนไปตามผู้ผลิต เช่น Thumb Drive, Flash Drive หรือ Handy Drive
5. อินเตอร์เฟซของไดรว์ซีดีรอม
อินเตอร์เฟซของไดรว์ซีดีรอมมีอยู่ 2 ชนิดคือ IDE ซึ่งมีราคาถูก มีความเร็วในการส่งถ่ายข้อมูลอยู่ในขั้น ที่ยอมรับได้ และชนิด SCSI มีราคาแพงกว่าแบบ IDE แต่ก็จะมีความเร็วในการส่งถ่ายข้อมูลสูงขึ้นด้วย เหมาะสำหรับนำมาใช้เป็นซีดีเซิร์ฟเวอร์ เพราะต้องการความเร็ว และความแน่นอนในการส่งถ่ายข้อมูลมากกว่า
6. โซนของแผ่นดีวีดี
แผ่นดีวีดีที่ใช้บรรจุภาพยนตร์นั้น จะมีการบรรจุรหัสพื้นที่ใช้งานเฉพาะพื้นที่กำหนด (Regional Codes) หรือ โซน (Zone) เพื่อประโยชน์ในการควบคุมลิขสิทธิ์ ทั้งนี้ในแต่ละแผ่นจะบรรจุรหัสไว้อย่างน้อย 1 โซน สำหรับแผ่นที่สามารถใช้ได้กับทุกโซน (All Zone) นั้น จะบรรจุรหัสเป็น1,2,3,4,5,6 นั่นเอง แผ่นพวกนี้ในบางครั้งนิยมเรียกว่าแผ่นโซน 0 โดยปกติเครื่องเล่นดีวีดี รวมถึงดีวีดีรอม ที่ผลิตในแต่ละประเทศ จะสามารถเล่นได้เฉพาะแผ่นที่ผลิตสำหรับโซนนั้นๆ และแผ่นที่ระบุเป็น All Zone เท่านั้น โซนพื้นที่
7. เทคโนโลยี Blu-Ray
บลูเรย์ดิสค์ (Blu-ray Disc) หรือ บีดี (BD) คือรูปแบบของแผ่นออพติคอลสำหรับบันทึกข้อมูลความละเอียดสูง ชื่อของบลูเรย์มาจาก ช่วงความยาวคลื่นที่ใช้ในระบบบลูเรย์ ที่ 405 nmของเลเซอร์สี "ฟ้า" ซึ่งทำให้สามารถทำให้เก็บข้อมูลได้มากกว่าดีวีดี ที่มีขนาดแผ่นเท่ากัน โดยดีวีดีใช้เลเซอร์สีแดงความยาวคลื่น 650 nm
8. เทปแบ็คอัพ ( Tape Backup )
เป็นอุปกรณ์สำหรับการสำรองข้อมูล ซึ่งเหมาะกับการสำรองข้อมูลทีมีขนาดใหญ่ๆ ระดับ 10-100 กิกะไบต์
9. การ์ดเมมโมรี ( Memory Card )
เป็นอุปกรณ์บันทึกข้อมูลที่มีขนาดเล็ก พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปใช้กับอุปกรณ์เทคโนโลยีแบบต่างๆ เช่น กล้องดิจิทัล คอมพิวเตอร์มือถือ ( Personal Data Assistant PDA) โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น
10. ZIP drive ของ Iomega Jazz drive
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกัน แต่รูปแบบต่างกันไป เช่น Zip Drive จากIomega ที่ออกมาก่อน Superdisk แต่ได้รับความนิยมมากพอสมควร Zip Drive มีทั้งรุ่นที่ต่อกับParallel port,USB port และแบบ SCSI และได้เพิ่มความจุจาก 100 เป็น 250 เมกะไบต์Iomega ยังได้ผลิต Jaz Drive ที่มีลักษณะเหมือนฮาร์ดดิสก์ถอดได้ โดยจะมีตัวไดรว์เป็นระบบSCSI เท่านั้น และมีแผ่นบรรจุข้อมูลขนาด 1 GB และ 2 GB นิยมใช้สำหรับการสำรองข้อมูลย้ายไปมา เนื่องจากมีความเร็วน้อยกว่าฮาร์ดดิสก์ และยังมีราคาแพงกว่า Zip หรือ Superdisk มาก
อ้างอิง
http://www.nsta1.net
http://3g.siamphone.com
http://th.wikipedia.org
http://www.mwk.ac.th
http://www.bcoms.net
http://technology.msnth2.com
http://yalor.yru.ac.th





